ultherapy biotechnology

Ulthera หรือที่เรียกกันในวงการความงามว่า “Ultherapy” ถ้าใครเคยเห็นคำ ๆ นี้ครั้งแรกก็คงจะงงใช่มั้ยครับ แต่ผมจะขอเปลี่ยนเป็นคำว่า ยกกระชับใบหน้า คราวนี้ทุกคนก็คงจะเข้าใจแล้วใช่มั้ยครับ จริง ๆ มันเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือใช้เข็ม เทคโนโลยีความงามนี้จะใช้คลื่นเสียงที่มีความถี่สูง หรือที่เรียกว่า High-Intensity Focused Ultrasound (HIFU) เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ซึ่งช่วยฟื้นฟูและกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมามีความยืดหยุ่นและดูอ่อนเยาว์มากขึ้นครับ แล้วเทคโนโลยีความงามนี้เรียกได้ว่ามี Bio Technology ที่ค่อนข้างทันสมัยมาก จะเป็นอย่างไร ผมมีคำตอบครับ

 

จุดเด่นของ Ulthera

คือความสามารถในการส่งพลังงานเข้าไปยังชั้นผิวหนังในระดับที่ลึกกว่าเทคโนโลยีอื่น ๆ ทำให้สามารถโฟกัสพลังงานได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย โดยเฉพาะในชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดยกกระชับผิว เพราะเหตุนี้นี่แหละครับ Ulthera จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการทำศัลยกรรมโดยไม่ต้องพักฟื้นเลย Ulthera ถูกนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าหรือแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ เช่นยกกระชับบริเวณใบหน้า คอ และเนินอก ลดริ้วรอยและร่องลึก ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น และฟื้นฟูสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เนื่องจาก Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัดและไม่ก่อให้เกิดบาดแผลเลย ผู้เข้ารับบริการอย่างเราจึงสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังการรักษาได้เลยครับ แล้วประเด็นคือมันเกี่ยวข้องกับ Biotechnology อย่างไร?

 

ในแง่ของเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) Ulthera นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างความรู้ด้านชีววิทยาและวิศวกรรมศาสตร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ปัญหาความงามในระดับเซลล์ผิวหนังได้ครับ การใช้คลื่นอัลตราซาวด์ที่มีความถี่สูงเพื่อโฟกัสพลังงานลงในชั้นผิวหนังที่ลึกที่สุด มีความเกี่ยวข้องกับหลักการทางชีวฟิสิกส์ที่เข้าใจกลไกของการตอบสนองของเซลล์ต่อพลังงานความร้อน เมื่อคลื่นอัลตราซาวด์จาก Ulthera ถูกส่งเข้าสู่ชั้นผิวในระดับลึก จะทำให้เกิดการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า Neocollagenesis โดยเซลล์ในชั้นหนังแท้ (Dermis) จะตอบสนองต่อพลังงานที่ได้รับด้วยการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินที่ช่วยคืนความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง และนอกจากนี้ Ulthera ยังได้รับการพัฒนาตามหลักการของ “Thermal Coagulation Points” ซึ่งหมายถึงจุดที่เกิดการสะสมพลังงานความร้อนเพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์ ทำให้กระบวนการนี้ช่วยให้ผลลัพธ์ของการรักษามีความยาวนานและเห็นผลได้อย่างเห็นได้ชัดเลยครับ

 

ทีนี้ด้วยความที่ Ulthera ถือเป็นเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าด้านการออกแบบอุปกรณ์และการใช้งานในระดับทางการแพทย์ ทำให้บริษัท Ulthera, Inc. ได้ยื่นจดสิทธิบัตรหลายรายการเพื่อปกป้องนวัตกรรมของตนเองหรือก็คือลิขสิทธิ์ส่วนตัวนั่นแหละครับ ซึ่งตัวอย่างของสิทธิบัตรที่สำคัญก็จะมีอยู่หลายปัจจัยเลยอย่างเช่น

  • ส่วนข้อจำกัดของ Ulthera ก็จะมีหลายอย่าง อย่างเช่นราคาที่แพง เนื่องจากการรักษาด้วย Ulthera มักมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น หรือบางครั้งผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับบุคคล เพราะความแตกต่างของสภาพผิวและอายุอาจมีผลต่อความสำเร็จของการรักษา และผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกไม่สบายระหว่างการรักษา ผู้เข้ารับบริการบางรายอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเนื่องจากพลังงานความร้อนจาก Ultrasound ได้วด์และการส่งพลังงานอัลตราซาวด์เพื่อการรักษาในอุปกรณ์เดียวกัน โดยผู้ใช้งานสามารถดูภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์เพื่อกำหนดตำแหน่งที่เหมาะสมในการรักษา
  • Method for Skin Lifting and Tightening เป็นสิทธิบัตรที่อธิบายถึงกระบวนการใช้คลื่นอัลตราซาวด์แบบโฟกัสเพื่อการยกกระชับและปรับโครงสร้างผิว โดยใช้หลักการทางฟิสิกส์ของคลื่นเสียงและการสร้างพลังงานความร้อนในจุดที่ต้องการ
  • HIFU Device with Precise Energy Delivery สิทธิบัตรนี้เกี่ยวข้องกับการออกแบบหัวอุปกรณ์ที่สามารถส่งพลังงานได้อย่างแม่นยำในระดับไมโครเมตร ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการรักษา

และจากที่ผมได้กล่าวไป ทำให้การถือครองสิทธิบัตรเหล่านี้ Ulthera ได้สร้างความมั่นใจในความเป็นเอกลักษณ์และความล้ำหน้าของเทคโนโลยีในตลาดความงามระดับโลก ณปัจจุบันครับ แต่ถึงอย่างไรการที่ Ulthera สามารถพัฒนาไปได้จนถึงจุดสูงสุดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีข้อดีและข้อจำกัดของมันครับ ข้อดีของการ Ulthera ก็อย่างเช่น การที่เราไม่ต้องผ่าตัดเนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้น ความปลอดภัยที่สูงเพราะผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) เรียบร้อยแล้ว สามารถเห็นผลระยะยาวจากผลลัพธ์ของการรักษาที่อยู่ได้นาน 1-2 ปี แต่ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการ และความแม่นยำสูง สามารถดูภาพชั้นผิวแบบเรียลไทม์เพื่อการรักษาที่เฉพาะจุดครับ

ส่วนข้อจำกัดของ Ulthera ก็จะมีหลายอย่าง อย่างเช่นราคาที่แพง เนื่องจากการรักษาด้วย Ulthera มักมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น หรือบางครั้งผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับบุคคล เพราะความแตกต่างของสภาพผิวและอายุอาจมีผลต่อความสำเร็จของการรักษา และผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกไม่สบายระหว่างการรักษา ผู้เข้ารับบริการบางรายอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเนื่องจากพลังงานความร้อนจาก Ultrasound ได้

 

และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Ulthera เราอาจจะได้เห็นการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขยายขอบเขตการใช้งาน เช่นการผสมผสานกับเทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ผิว หรือการปรับปรุงอุปกรณ์ให้สามารถลดระยะเวลาในการรักษา นอกจากนี้ความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพและวงการแพทย์ยังอาจนำไปสู่การพัฒนาเครื่องมือที่สามารถตอบสนองความต้องการด้านความงามได้ในระดับที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น การกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์ในระดับโมเลกุล เราก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปในอนาคตครับว่า Ulthera จะสร้าง Impact ให้กับเราแค่ไหน

 

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

  1. Ulthera Technology by V Square
  2. สิทธิบัตร Ulthera
  3. เอกสาร PDF

 

By hxhx2hx

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *